เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะต้องเคยได้ยินเรื่องของการดูดเสมหะอย่างแน่นอน ซึ่งการดูดเสมหะนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก ที่ไม่สามารถนำเสมหะออกมาได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งผู้ป่วยเจาะคอ ที่จะไม่สามารถนำเสมหะออกมาได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการดูดเสมหะหรือการ Suction จะเป็นการเคลียช่องทางเดินหายใจให้โล่ง และช่วยให้ทุกคนสามารถหายใจได้อย่างสะดวก แต่การดูดเสมหะจำเป็นต้องทำอย่างถูกขั้นตอน เพื่อป้องกันผลข้างเคียง และป้องกันอันตรายต่าง ๆ ดังนั้นในวันนี้จะพาทุกคนไปดูข้อควรระวังในการดูดเสมหะ เพื่อดูดเสมหะได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

การดูดเสมหะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหายใจได้ดีที่สุด 

ทุกคนรู้หรือไม่ว่าการดูดเสมหะในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เครื่องดูดเสมหะ หรือเครื่อง Suction ซึ่งจะเป้นเครื่องที่ใช้แรงดันลม เพื่อเป็นตัวช่วยดูดเสมหะที่อยู่ลึกลงไปในช่องทางเดินหายใจ ให้ออกมาได้ทั้งหมด โดยจะผ่านทางสายยางปลอดเชื้อ ทั้งนี้หากใครกังวลในเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน จะต้องบอกเลยว่าเครื่องดูดเสมหะในปัจจุบัน ได้รับพัฒนาขึ้นมาอย่างทันสมัย เพื่อให้ทุกคนใช้งานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถขนย้ายได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการเลือกใช้เครื่องดูดเสมหะจะช่วยตอบโจทย์การใช้งานของคนยุคใหม่ได้มากที่สุด 

ข้อควรระวังในการดูดเสมหะ ที่ทุกคนไม่ควรพลาด 

แม้ว่าในปัจจุบันการดูดเสมหะจะมีเครื่องดูดเสมหะ ที่เป็นตัวช่วยให้ทุกคนใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าการดูดเสมหะจะมีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น 

  • ไม่ใช้แรงดูดที่มากเกินไป: หลาย ๆ คนจะคิดว่า การดูดเสมหะแรง ๆ จะช่วยให้เราดูดเสมหะออกมาได้ทั้งหมด แต่ความจริงแล้วการดูดเสมหะแรง ๆ จะทำให้เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อ และอาจจะก่อให้เกิดการพร่องออกซิเจนได้นั่นเอง ดังนั้นเราควรดูดเสมหะให้เบาที่สุด เพื่อลดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั่นเอง 
  • ภาวะพร่องออกซิเจนในขณะดูดเสมหะ: จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราใช้เวลาดูดเสมหะนานเกินไป โดยการดูดเสมหะแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 10-15 วินาที 
  • ความสะอาด: ก่อนดูดเสมหะเราควรล้างมือก่อนทุกครั้ง รวมทั้งเลือกใช้อุปกรณ์ที่สะอาด ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ผู้ป่วย 

ต้องบอกเลยว่าการดูดเสมหะในปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย ให้ความสะดวกได้มากขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่เราจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการดูดเสมหะอย่างถูกต้อง เพื่อดูดเสมหะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายในขณะดูดเสมหะได้อย่างดียิ่งขึ้น